กระดาษลูกฟูกที่มีการใช้งานอยู่ในปัจจุบันมีด้วยกัน 4 ประเภทคือ

กระดาษลูกฟูก 2 ชั้น
หรือเรียกว่า กระดาษลูกฟูกหน้าเดียว ประกอบตัวกระดาษทําผิวกล่อง 1 ด้าน และตัวลอนลูกฟูก นิยมใช้เป็นวัสดุกันกระแทก ใช้ห่อหุ้มเฟอร์นิเจอร์ หลอดไฟฟ้า ขวดแก้วต่างๆ เพื่อช่วยป้องกัน ไม่ให้สินค้าเกิดความความเสียหาย ระหว่างการบรรจุ การเคลื่อนย้ายและการขนส่ง

กระดาษลูกฟูก 3 ชั้น
ประกอบด้วยกระดาษทําผิวกล่องด้านหน้าและหลัง ตรงกลางเป็นลอนลูกฟูก ซึ่งจะขึ้นอยู่กับการใช้งานของกล่อง นิยมใช้บรรจุสินค้าทั่วไปที่มีน้ำหนักปานกลาง และนิยมนําไปผลิตเป็นส่วนประกอบต่างๆ เพื่อช่วยเริมความแข็งแรงของกล่อง เช่น แผ่นรอง แผ่นกั้น แผ่นข้าง กรอบเสริม และกล่องไร้ฝา เป็นต้น

กระดาษลูกฟูก 5 ชั้น
ประกอบด้วยกระดาษแผ่นเรียบ 3 แผ่น และลอนลูกฟูกอีก 2 ชั้น โดยลอนที่ผลิต มักจะมีขนาดต่างกันเพื่อให้ยืดหยุ่นตัวในการรองรับแรงกระแทกได้ดี ส่วนมาก มักจะผลิตจากลอน B และ C เป็นหลักโดยทั่วไปจะนําไปผลิตเป็นกล่องลูกฟูก ที่ต้องการการรับน้ำหนักสูง และยังสามารถผลิตเป็นส่วนประกอบต่างๆ ของกล่องได้อีกด้วย

กระดาษลูกฟูก 7 ชั้น
นิยมใช้ในงานอุตสาหกรรมหนัก ที่ต้องรับน้ำหนักบรรจุเป็นจํานวนมาก เช่น เครื่องจักรในอุตสาหกรรมประกอบด้วยกระดาษแผ่นเรียบ 4 ชั้น และลอนลูกฟูกอีก 3 ชั้น