“ลูกฟูก” คืออะไร?
ทำไมต้องใช้ “กระดาษลูกฟูก”?
กล่องกระดาษลูกฟูกมีขั้นตอนการผลิตอย่างไร?
กล่องแบบสล๊อต 4 ฝา มีส่วนประกอบอะไรบ้าง?
เราจะชี้บ่งขนาดของกล่องได้อย่างไร?
“ลูกฟูก” คืออะไร?
เราสามารถสังเกตลักษณะของกล่องกระดาษลูกฟูกได้ง่ายมาก ลูกฟูกจะประกอบด้วยชั้นกระดาษที่เป็นคลื่น หรือที่เรียกว่า “ลอนลูกฟูก” อยู่ระหว่างผิวกระดาษเรียบ 2 แผ่น ที่เรียกว่า “กระดาษทำผิวกล่อง” กระดาษลูกฟูกนิยมนำมาผลิตเป็นกล่องกระดาษลูกฟูก โดยมีชั้นลอนลูกฟูก 1 ชั้น ซึ่งจะมีความแข็งแรงและความทนทานสูง โครงสร้างที่เป็นลอนนี้ทำให้อากาศสามารถผ่านเข้าไปเพื่อช่วยเป็นฉนวนให้กับ กล่อง ทั้งยังช่วยปกป้องบรรจุภัณฑ์จากอุณหภูมิที่แปรปรวนได้อีกด้วย
ทำไมต้องใช้ “กระดาษลูกฟูก”?
กล่องกระดาษลูกฟูกนั้นไม่ได้เป็นแค่กล่องสีน้ำตาลใบนึงเท่านั้น แต่เป็นกล่องที่สามารถออกแบบและผลิตเพื่อให้เหมาะกับการใช้งานและการขนส่ง ได้อย่างสมบูรณ์แบบ คุณสมบัติที่ทำให้กระดาษลูกฟูกได้รับนิยมนำมาผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์ มีดังต่อไปนี้
► แข็งแรง ทนทาน | ► มีหลายรูปแบบ | ► น้ำหนักเบา |
► เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม | ► ทันสมัย | ► ออกแบบได้ตามต้องการ |
► ปกป้องสิ่งที่บรรจุอยู่ได้ดี | ► คุ้มราคา | ► พิมพ์ได้สวยงาม |
กล่องกระดาษลูกฟูกมีขั้นตอนการผลิตอย่างไร?
ขั้นตอนการผลิตกล่องกระดาษลูกฟูกนั้นไม่ซับซ้อน เริ่มจากการนำกระดาษทำลอนลูกฟูกมาขึ้นรูปเป็นลอนลูกฟูกและนำกระดาษทำ ผิวกล่องมาปะหน้าและหลัง จนได้เป็นแผ่นกระดาษลูกฟูก 3 ชั้น หรือ 5 ชั้น ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของกล่องที่ต้องการ แล้วจึงทำการทับรอยและตัดกระดาษให้ได้ขนาดที่จะทำเป็นกล่อง จากนั้นจึงทำการพิมพ์สีเฟล็กซ์โซลงบนกล่อง และเซาะร่องสล๊อตกล่องไปในตัวสำหรับกล่อง 4 ฝา หากเป็นกล่องไดคัทจะไม่ทำการเซาะร่องสล็อตที่เครื่องพิมพ์ แต่จะนำไปปั๊มด้วยเพลทมีดไดคัททีละ 1 ใบ ให้มีลักษณะรูปทรงพิเศษตามที่ต้องการ ขั้นตอนสุดท้ายคือการประกบกล่อง ซึ่งแบ่งออกได้เป็น 2 วิธี คือ การปะกาวที่ลิ้นกล่อง และการเย็บด้วยลวดทองแดงหรือลวดเงินที่ลิ้นกล่อง เพื่อทำให้กล่องติดกัน แล้วจึงพับกล่องให้แบนราบเพื่อนความสะดวกในการขนส่ง โดยที่ลูกค้าสามารถขึ้นรูปและบรรจุสินค้าได้อย่างสะดวกเช่นกัน
กล่องแบบสล๊อต 4 ฝา มีส่วนประกอบอะไรบ้าง?
ส่วนประกอบต่างๆ ของกล่องสล๊อต 4 ฝา มีชื่อเรียกดังภาพประกอบด้านล่าง
เราจะชี้บ่งขนาดของกล่องได้อย่างไร?
ขนาดของกล่องลูกฟูกจะถูกกำหนดเป็น ด้านกว้าง, ด้านยาว และด้านลึก ตามลำดับ แต่ในทั่วไปอาจจะใช้เป็น ด้านยาว, ด้านกว้าง และด้านสูงเพื่อชี้บ่งขนาดของกล่อง โดยมิติของกล่องนี้จะขึ้นอยู่กับด้านที่เปิด-ปิดของกล่องแต่ละรูปแบบ ซึ่งฝาเปิด-ปิดของกล่องอาจจะอยู่ด้านบนหรือด้านข้างก็ได้ขึ้นอยู่กับการ บรรจุสินค้า ฝาเปิด-ปิดส่วนมากจะเป็นสี่เหลี่ยม ซึ่งทำให้มีด้านที่ขนานกันอยู่ 2 คู่ โดยคู่ที่ยาวกว่าจะถูกกำหนดให้เป็นด้านยาว ในขณะที่คู่ที่สั้นกว่าจะเป็นด้านกว้าง ส่วนด้านที่ตั้งฉากกับด้านยาวจะเป็นด้านลึก (ด้านสูง) ของกล่อง มิติของกล่องสามารถกำหนดเป็นมิติภายในกล่องหรือมิติภายนอกกล่องก็ได้ ควรจะมีการกำหนดมิติภายในกล่องอย่างถูกต้องเพื่อที่จะบรรจุสินค้าให้พอดีกับ ตัวกล่อง สำหรับการขนส่งและการเก็บรักษา ในขณะเดียวกันการขนส่งและการจัดเรียงกล่องนั้น จำเป็นต้องใช้มิติภายนอกกล่อง ดังนั้นผู้ผลิตกล่องจึงจำเป็นต้องแจ้งให้ลูกค้าทราบถึงความสำคัญของการระบุ มิติกล่องด้วย